ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ให้เว้น 4 สัปดาห์ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 3 และเว้นอีก 4 เดือน รับแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 4 2. ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม ตามด้วย แอสตร้าเซนเนก้า เว้น 3 เดือน รับแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 3 และเว้น 4 เดือนรับไฟเซอร์ เป็นเข็ม 4 3. ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม ตามด้วย ไฟเซอร์ เว้น 3 เดือน ตามด้วยไฟเซอร์ เป็นเข็ม 3 และเว้น 4 เดือน รับไฟเซอร์ เป็นเข็ม 4 4. แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม เว้น 3 เดือน รับไฟเซอร์เป็นเข็ม 3 และเว้น 4 เดือน รับไฟเซอร์ เป็นเข็ม 4 5. ไฟเซอร์ 2 เข็ม เว้น 3 เดือนรับไฟเซอร์ เป็นเข็ม 3 6. แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วย ไฟเซอร์ เว้น 3 เดือนรับไฟเซอร์ เป็นเข็ม 3 7. แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม เว้น 3 เดือน รับแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 3
เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงวันวาน รัฐบาลกำลังพิจารณาจะประกาศให้โควิด–19 โอมิครอน ที่กำลังระบาดไปทั่วประเทศเป็น "โรคประจำถิ่น" (Endemic) ไม่ใช่โรคระบาดอีกต่อไป โดยอ้างว่า มีการบริหารจัดการดูแลดี ทำให้ชะลอการระบาด ประชาชนร่วมมือฉีดวัคซีน ทำให้มีภูมิคุ้มกันค่อนข้างดี และ เชื้อโอมิครอนก็มีความรุนแรงลดลง เมื่อรัฐบาลประกาศให้ "โควิด-19" เป็น "โรคประจำถิ่น" แล้ว ผู้ติดเชื้อก็ให้รักษาตัวที่บ้านแบบ Home lsolation และ ศูนย์พักคอยในชุมชน (Community lsolation) แทนการไปรักษาตัวในโรงพยาบาล นพ. เกียรติภูมิ ยํ้าว่า "กระทรวงสาธารณสุขจะพยายามจัดการให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นให้ได้ในปีนี้" ไม่รู้จะเร่งประกาศไปทำไม มีใครอยากใช้หาเสียงหรือเปล่า ทั้งที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขยังไม่พร้อม ผมฟังแล้วก็งงๆ ไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศให้โรคระบาดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นได้จริงหรือ ทั้งที่ การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ณ วันที่ 10 มกราคม เพิ่งฉีดไปได้แค่ 8. 29 ล้านโดส 0. 1% ของประชากรเท่านั้นเอง ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช เพิ่งเปิดเผยผลการวิจัย การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อโควิดสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ของ วัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ครึ่งโดส และ ไฟเซอร์เต็มโดส พบว่าวัคซีนแอสตราฯให้ภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนตํ่าที่สุด ดังนี้ 1.
เปิด สายด่วนโควิด 50 เขต รับผู้ป่วยโควิดเข้าระบบการรักษา
เผยแพร่: 21 มี. ค. 2565 15:09 ปรับปรุง: 21 มี. 2565 15:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ สธ. เพิ่มคำแนะนำเพิ่มเติมการบูสต์วัคซีนโควิด ระบุ อายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดเข็ม 2 ครบ 3 เดือน มารับเข็ม 3 ได้ในทุกสูตร ส่งผลไฟเซอร์ 2 เข็ม ได้รับเข็มกระตุ้นเร็วขึ้น ส่วนเข็ม 4 ฉีดห่างเข็ม 3 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ด้านกลุ่มเด็กโต 12-17 ปี ให้ฉีดเข็ม 3 ได้เลย เว้นระยะห่าง 4-6 เดือนขึ้นไป เมื่อวันที่ 21 มี. นพ. วิชาญ ปาวัน ผอ. กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงแนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้ว 127 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 54. 8 ล้านคน คิดเป็น 78. 9% เข็มสอง 50. 1 ล้านคน คิดเป็น 72. 1% และเข็มกระตุ้น 22. 3 ล้านคน คิดเป็น 32. 2% เป็นไปตามแผนที่ ศบค. เห็นชอบ โดยกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มแรกแล้ว 10. 5 ล้านคน และเข็มสอง 10 ล้านคน กำลังเร่งฉีดเข็มกระตุ้น ซึ่งฉีดแล้ว 4. 2 ล้านคน ส่วนกลุ่มเด็กเล็ก 5-11 ปี ฉีดเข็มแรก 1. 7 ล้านคน โดยการฉีดเข็มกระตุ้นจะเพิ่มึข้นเรื่อยๆ จากการรณรงค์ฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายหลัก นพ. วิชาญ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคำแนะนำการให้วัคซีนโควิด-19 ล่าสุด วันที่ 17 มี.