"ได้เงินเดือน 15, 000 บาท พอใช้ในยุคนี้จริงเหรอ? " ลองคำนวณค่าครองชีพที่ต้องใช้ต่อเดือน ฟังดูก็ขนลุกไม่น้อยเพราะค่าครองชีพบ้านเราพุ่งขึ้นไม่หยุด ค่าอาหารวันละ 200x30 = 6, 000 / ค่าหอรวมค่าน้ำค่าไฟ 5, 000 / ค่าเดินทาง 1, 500 / ค่าใช้จ่ายจิปาถะ 2, 500 = 15, 000 บาท เรียกว่าแทบไม่เหลือเงินเผื่อฉุกเฉิน หรือหากใครต้องส่งให้พ่อแม่ ก็คงต้องกัดฟันประหยัดรัดเข็มขัดกันสุดฤทธิ์ อาจต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตั้งแต่วันที่ 20 ของเดือน แล้วจะมีทางไหนที่ทำให้เรามีโอกาสได้เงินเดือนสักเดือนละ 20, 000 บาทขึ้นไปหรือเปล่านะ? มีแน่นอน จบใหม่ได้เงินเดือนเหยียบ 30, 000 บาทไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่อาจต้องใช้ความพยายามมากหน่อย ซึ่งในที่นี้จะไม่ขอรวมถึงสายเฉพาะทางมากๆ ที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มีรายได้สูงกว่าเด็กจบใหม่คณะอื่น และเด็กคณะอื่นไม่สามารถแย่งงานได้ เช่น แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ วิศวะปิโตรเคมี และไม่รวมถึงการเรียนจบจากต่างประเทศ 1.
ซื้อ eBook - £22. 54 0 บทวิจารณ์ เขียนบทวิจารณ์ โดย Amornrat Boonyarit: Ami Lawyer เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ข้อกำหนด ของ การให้บริการ จัดพิมพ์โดย Amornrat Boonyarit: Ami Lawyer.
กองทุนประกันสังคม ใช้ในกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น เจ็บป่วย ทำฟัน ว่างงาน เงินเกษียณ ฯลฯ โดยนายจ้างจะต้องขึ้นทะเบียนนายจ้าง และขึ้นทะเบียนลูกจ้างให้เป็นผู้ประกันตนของกองทุนประกันสังคม ภายใน 30 วัน นับแต่มีการจ้างลูกจ้าง หลังจากนั้นนายจ้างจะต้องหักเงินสมทบทั้งส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง ในอัตรา 5% ของค่าจ้าง (ฐานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15, 000 บาท ถ้าเงินเดือนสูงกว่านี้ก็ใช้แค่ยอด 15, 000 x 5% = 750 บาท) โดยนำส่งเงินด้วยแบบ สปส. 1-10 ส่วนที่ 1 และ สปส. 1-10 ส่วนที่ 2 ที่สำนักงานประกันสังคม หรือยื่นออนไลน์และนำแบบไปชำระที่ธนาคารที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเอกสารประกันสังคมจากโปรแกรม FlowAccount และสามารถทดลองใช้โปรแกรมฟรี 30 วัน 2. กองทุนเงินทดแทน ใช้กรณีที่เจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ ทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต จากการทำงานให้นายจ้าง โดยนายจ้างจะต้องขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่มีการจ้างลูกจ้างเช่นกัน แต่นายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเงินทดแทนแต่เพียงฝ่ายเดียวให้สำนักงานประกันสังคม โดยจ่ายเป็นรายปี นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนเท่าไหร่ นายจ้างจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนแบบรายปีเพียงปีละครั้ง แบ่งจ่ายเป็น 2 รอบ คือ ครั้งที่ 1: ชำระตามแบบ กท.
26 ก ที่ทางประกันสังคมประเมินตัวเลขไว้ ครั้งที่ 2: ชำระตามยอดใบแจ้งการประเมิน กท. 25 ค ซึ่งตัวเลขนี้จะมาจากการคำนวณตามแบบ กท. 20 ก ที่ได้นำส่งไปในเดือนกุมภาพันธ์ มีวิธีการคำนวณคือ ค่าจ้างส่วนที่ไม่เกิน 20, 000 บาท / คน / เดือน ของทั้งปีรวมกัน X อัตรา เงินสมทบระหว่างอัตรา 0. 2-1. 0% ตามประเภทของกิจการ _ ยอดที่ชำระไปแล้วตามแบบ กท.
Highlight: กองทุนเงินทดแทน เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่นายจ้างจะต้องจ่ายเงิน ทดแทน ให้ลูกจ้าง โดยจ่ายแบบเป็นรายปีเพียงฝ่ายเดียว ขั้นตอนคือ สำนักงานประกันสังคมจะประเมินค่าจ้างหรือค่าจ้างรายวันแบบคร่าวๆ ในช่วงเดือนธันวาคม พร้อมส่งแบบ กท. 26 ก. และแบบ กท. 20 ก มาให้ นายจ้างชำระยอดตามที่ประกันสังคมประเมินมาลงในแบบ กท. ก่อนสิ้นเดือน ม. ค. นายจ้างรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงทั้งหมดของปีที่ผ่านมาลงแบบ กท. 20 ก ก่อนสิ้นเดือน ก. พ. เมื่อนำส่งแบบแล้ว นายจ้างจะได้รับแบบแจ้งประเมินกองทุนทดแทน กท. 25 ค กรณีต้องจ่าย เงินทดแทน เพิ่มเติม ซึ่งต้องทำก่อนสิ้นเดือน มี. ค. นายจ้างหรือพนักงานที่รับผิดชอบเรื่องเงินเดือนของลูกจ้างสามารถดึงข้อมูลลูกจ้างจากเมนู Payroll ใน FlowAccount มาทำ กท. 20 ก ได้ ใครที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและเริ่มมีการจ้างลูกจ้างแล้ว ก็จะมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนให้ลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนของกองทุนประกันสังคม โดยนายจ้างจะจ่ายเงินประกันสังคมสมทบร่วม พร้อมกับที่หักออกจากรายได้ของพนักงานในทุกๆ เดือน และยังมี "กองทุนเงินทดแทน" อีกกองทุนหนึ่ง ที่นายจ้างจะต้องจ่ายเงินทดแทนประจำปีให้ในช่วงทุกต้นปี ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก็ถึงเวลาต้องส่งรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงแก่สำนักงานประกันสังคมแล้ว เป็นนายจ้างแล้วต้องรู้อะไรบ้าง พนักงานที่ขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างตามกฎหมาย จะได้สิทธิ 2 กองทุนคือ 1.