หลังจากรู้ค่า XC และ XL แล้ว จะคำนวณหาค่าความต้านทานของ capacitor (XC) และความต้านทานของ reactor (XL)ที่แต่ละความถี่ของฮาร์โมนิค แต่เพื่อความง่ายขึ้นในการคำนวณหาค่า จะพิจารณาถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อความถี่สูงขึ้น เช่น ฮาร์โมนิคอันดับที่ 5 มีความถี่ 250 เฮิรตซ์ หรือ 5*50 Hz นั้นแสดงว่าความถี่เพิ่มขึ้น 5 เท่า จากนั้นมาดูที่สูตรหาความต้านทาน 0 /5000 จาก: - เป็น: ผลลัพธ์ ( อังกฤษ) 1: [สำเนา] คัดลอก! After you know the value and the XL XC calculate resistance value of the capacitor (XC), and the resistance of each reactor (XL), in which the frequency of harmony but to Nick's easier to calculate the value to determine what changed. When the frequency is higher, like new harmony คอันดับ 5 250 Hertz frequency to 50 Hz or 5 *, it indicates that the increased frequency of 5 times, then take a look at the formula for the resistance. การแปล กรุณารอสักครู่.. ผลลัพธ์ ( อังกฤษ) 2: [สำเนา] คัดลอก! After knowing the XC and XL will calculate the impedance of the capacitor (XC) and the resistance of reactor (XL) at each frequency of the harmonics.
ข้อมูลนี้ผมเขียนไว้ปี 2552 ตอนเริ่มทำงานเรื่อง CAPACIOTR BANK ส่วนบทต่อไปจะเป็นส่วนปัจจุบันที่ผมจะเริ่มเขียนหลังจากอยู่กับ CAPACITOR มาสี่ปีเต็มๆ
Documentary, Taneas. n 001: การประยุกต์ใช้งานCapacitor
วงจรไฟฟ้าภายในบ้าน 14. การนำความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้ากระแสประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า กิจกรรม 1: ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การทดลอง 1. กฏของโอห์ม 2. การอ่านค่าความต้านทานจากแถบสี 3. Wheatstone bridge experiment 4. วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย 5. การต่อตัวต้านทาน 6. การต่อเซลไฟฟ้า 7. การใช้มัลติมิเตอร์วัดปริมาณไฟฟ้า กิจกรรม การทดลอง เรื่อง กฏของโอห์ม:- ตัวนำไฟฟ้า ความนำไฟฟ้า สภาพนำไฟฟ้า กฎของโอห์ม ตัวแปร ความต่างศักย์ไฟฟ้า ตัวต้านทาน ความต้านทาน สภาพต้านทานไฟฟ้า - การทดลอง เรื่อง กฎของโอห์มและความต้านทานไฟฟ้า - อุปกรณ์ต่อกลุ่ม 1. ลวดนิโครมพันรอบแกนฉนวน 2. แอมมิเตอร์(0-5A, D. C. ) 3. โวลต์มิเตอร์(0-15V, D. ) 4. กระบะพร้อมถ่านไฟฉาย 4 ก้อน 5. สายไฟฟ้าพร้อมแจ๊ค 4 คู่ 6. กระดาษกราฟ(นักเรียนจัดหามาเอง) รูปที่ 1 วงจรการทดลองกฎของโอห์ม 1. จัดอุปกรณ์การทดลอง ดังรูป หรือ จัดตามรูป ก. ข. และ ค. ในแบบเรียนหน้า 81. 2. ใช้ถ่านไฟฉาย 1 ก้อน ในแบตเตอรี ต่อวงจรให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวนำ บันทึกจำนวนถ่าน กระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า 3. เพิ่มถ่านไฟฉายเป็น 2, 3 และ 4 ก้อน ปฏิบัติเหมือนข้อ 2. ทุกครั้งเมื่อเพิ่มถ่านไฟฉาย 4.
การต่อแบบขนาน การนำตัวเก็บประจุมาต่อกันแบบขนาน ดังภาพด้านล่าง จะมีผลทำให้ความจุรวม มีค่ามากขึ้น มีผลเท่ากับผลรวมของความจุของตัวเก็บประจุทั้งสอง และเป็นที่น่าสังเกตว่าความต่างศักย์ไฟฟ้าของตัวเก็บประจุทั้งสอง จะมีค่าเท่ากัน และเท่ากับความต่างศักย์ไฟฟ้าของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่นำมาต่อ 2. การต่อแบบอนุกรม การนำตัวเก็บประจุมาต่อกันแบบอนุกรม ดังภาพด้านล่าง จะมีผลทำให้ความจุรวม มีค่าน้อยลง และหาค่าได้จาก