อัพเดทเวอร์ชั่นของเครื่อง หรือรีสตาร์ท อีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากตัวระบบของตัวเครื่องเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้บ่อยนัก แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากการโทร ทั้งจากทางเราและอีกฝ่ายได้เช่นกัน วิธีแก้ก็คือ การอัพเดทเวอร์ชั่นที่ใช้งานอยู่ ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด หรือถ้ายังไม่อยากอัพเดท ก็ให้ลองรีสตาร์ทเครื่องก่อน 1 ครั้ง จะรีสตาร์ทด้วยวิธีปกติ หรือจะ Force Restart ก็ได้ ( ดูวิธีรีสตาร์ท iPhone) ถ้าทำแล้วหายก็ไม่จำเป็นต้องอัพเดท แต่ถ้าไม่หายก็ลองอัพเดทเวอร์ชั่นให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และลองใช้งานใหม่อีกครั้ง 4.
ตรวจสอบฟิล์ม, เคสรอบตัวเครื่อง ปัญหาอย่างแรกสำหรับคนที่ใช้งานไอโฟน หลังจากที่ได้ซื้อมาใหม่เลยก็คือ ลองโทรแล้วอีกคู่สายไม่ได้ยินเสียงที่เราพูด ไม่ว่าจะเป็นการโทรปกติ หรือโทรผ่านแอปฯ ผ่านไลน์แล้วไม่ได้ยินเสียง สิ่งแรกที่ต้องดูเลยก็คือ "ฟิล์ม" ที่ติดมากับตัวเครื่อง หรือฟิล์มที่ให้ร้านติดมา อาจจะไปปิดช่องรับเสียงของตัวเครื่องได้ รวมไปถึงเคสที่ใช้งานอยู่ด้วย ที่เคสบางอันนั้นไปปิดช่องรับเสียงจากตัวเครื่องได้เช่นกัน วิธีแก้ คือการตรวจสอบฟิล์ม และเคสรอบตัวเครื่องก่อน ว่าไปปิดตัวไมค์ของตัวเครื่องหรือไม่ ถ้ายังมีฟิล์มหรือที่ปิดอยู่ให้แกะออก และลองโทรใหม่ก็จะได้ยินเสียงที่หายไปแล้ว 2. ไอโฟนเสียงเบา หรือไม่ได้ยินเสียงเมื่อโทรคุยกับเครื่องอื่น ปัญหานี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่คนใช้งานไอโฟนส่วนมากจะต้องเจอ นั่นก็คือมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอม เข้าไปติดอยู่ในช่องต่างๆ ของตัวเครื่อง ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ ที่ยังมีช่องเสียบหู้ฟัง 3. 5 อยู่ก็อาจจะมีฝุ่นที่เข้าไปติดหนาแน่นมากทำให้อีกฝ่ายไม่ได้ยิน หรือในรุ่นใหม่ๆ ที่เราโทรคุยแล้วได้ยินเสียงอีกฝ่ายเบามากๆ ก็เกิดจากสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันทางช่องลำโพงได้เหมือนกันนะ วิธีแก้ คือให้เอาแปรงที่ไม่ได้ใช้แล้ว (ไม่ต้องชุบน้ำ) มาปัดตรงช่องลำโพงสักสองสามที หรือจนกว่าจะรู้สึกว่ามันไม่มีสิ่งสกปรกแล้ว และลองโทรคุยดูใหม่อีกครั้ง หรือถ้าไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราที่พูดออกไป ก็ให้ใช้คอตตอนบัดเล็กๆ เช็ดตรงช่องไมค์และลำโพง รับรองว่าเสียงที่เบานั้น จะกลับมาสดใสเหมือนเครื่องใหม่อย่างแน่นอน 3.
คลื่นเสียงแก้เสียงลำโพงแตก #มือถือตกน้ำ #เสียงแตก #เสียงเบา #เสียงเพี้ยน แค่เปิดฟังไม่ต้องซ่อม #ฟรี - YouTube
ไปที่ การตั้งค่า > การจัดการทั่วไป ขั้นตอนที่ 2. แตะที่ รีเซ็ต > รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น ขั้นตอนที่ 3. เลื่อนหน้าลงและเลือก รีเซ็ต ขั้นตอนที่ 4.
วิกิฮาวนี้สอนคุณเพิ่มระดับเสียงบนอุปกรณ์ วิธีเพิ่มความดังหรือระดับเสียงของอุปกรณ์ Android ได้ง่ายที่สุด ก็คือกดปุ่มเพิ่ม volume ที่ปกติอยู่ทางขวาของมือถือ หรือใช้หูฟังไม่ก็ลำโพง external เสียบแยกมาอีกที ถ้านอกจากเพิ่มเสียงแล้วอยากให้คุณภาพเสียงดีขึ้นด้วยตอนฟังเพลง ก็มีหลายแอพให้เลือกดาวน์โหลดจากใน Google Play Store 1 เช็คว่าไม่มีอะไรไปอุดลำโพง. ทำความสะอาดกำจัดฝุ่นผงไม่ให้รบกวนเสียงของลำโพง จะเสียบหูฟังหรือลำโพงแยกก็ได้ [1] 2 ปลดล็อคอุปกรณ์แล้วกดปุ่มเพิ่ม volume. ถ้าจะเพิ่มเสียงของมือถือ Android ให้ดังขึ้น ก็ให้กดปุ่มที่ตัวเครื่องเอง ปกติปุ่มจะอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง เช็คให้ชัวร์ว่าเปิดเครื่องแล้ว และกดปุ่มเพิ่ม volume จนแถบที่ขึ้นในหน้าจอบอกว่าเสียงดังจนสุดแล้ว จะเป็นการเปิดเมนู pop-up สำหรับขยายระดับเสียงขึ้นมาชั่วคราว 3 เปิดแอพ "Settings" ของอุปกรณ์. คุณจะพบการตั้งค่าระดับเสียงในเมนู Settings ถ้าจะเปิด ให้เลื่อนจากข้างบนของหน้าจอลงมาจะเปิดเมนูขึ้นมา แล้วแตะไอคอนที่ดูเหมือนฟันเฟืองทางมุมขวาบน อีกทางเลือกคือเปิดเมนู Settings ใรเมนู Apps จะมีไอคอนที่ดูเหมือนฟันเฟือง 4 แตะ Sound & Notifications หรือ Sound & Vibrations.
ท่ามกลางปัญหามากมายที่เราสามารถพบได้ในไฟล์ Xiaomi โทรศัพท์มือถือเป็นเสียงที่น่าเบื่อที่สุดอย่างหนึ่ง มันน่าผิดหวังมากที่ อุปกรณ์หยุดฟังหรือลำโพงมีเสียงเบาเกินไป.
เนื่องจากบริเวณที่วงกลมในรูปด้านบน เป็นตำแหน่งของลำโพงเสียงสนทนา (ลำโพงเสียงตัวเครื่องจะอยู่ด้านล่าง กรณีที่เป็น iPhone 6S) สาเหตุที่ทำให้ลำโพงเสียงสนทนาเบาหรือไม่ได้ยินนั้น คาดว่า มาจากสาเหตุของการที่มีฝุ่นหรือคราบเหงื่อของผู้ใช้งานไปติดบริเวณช่องนี้ จนทำให้บดบังเสียงสนทนาจนเบาลง เมื่อนำแปรงสีฟันไปปัดเบาๆ ตรงจุดนี้ จึงเป็นการปัดเอาเศษฝุ่นหรือคราบเหงื่อที่อยู่ติดบริเวณนั้นออกไป เสียงสนทนาจึงกลับมาได้ยินเหมือนเดิม
รีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ รีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณแล้วทดสอบอีกครั้ง หากปัญหายังคงอยู่ โปรดดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ขั้นตอนที่ 1. ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอโทรศัพท์ของคุณเพื่อเปิด แผงการตั้งค่าด่วน ขั้นตอนที่ 2 แตะไอคอน เพาเวอร์ จากนั้นเลือก รีสตาร์ท วิธีที่ 3. เริ่มอุปกรณ์ของคุณในเซฟโหมด แอพที่ดาวน์โหลดมาบางแอพอาจทำให้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตค้าง ขัดข้อง หรือล่าช้า แอพบางตัวอาจส่งผลต่อการทำงานของกล้อง ทำให้เกิดปัญหาด้านเสียง และส่งผลต่อการเชื่อมต่อเครือข่าย การใช้ เซฟโหมด จะปิดใช้งานแอพที่ดาวน์โหลดทั้งหมดและโหลดเฉพาะซอฟต์แวร์ดั้งเดิมที่มาพร้อมกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ ช่วยให้คุณระบุได้ว่าปัญหาเกิดจากแอพหรือโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต หากปัญหาไม่ปรากฏขึ้นขณะอยู่ใน เซฟโหมด แสดงว่าปัญหาเกิดจากแอพที่ดาวน์โหลด และควรถอนการติดตั้งแอพนั้น ขั้นตอนที่ 1. ปัดลงด้วยสองนิ้วจากด้านบนของหน้าจอเพื่อเปิด การตั้งค่าด่วน แตะไอคอน เพาเวอร์ ที่ด้านบนของหน้าจอ ขั้นตอนที่ 2 แตะ ปิดเครื่อง ค้างไว้จนกระทั่งไอคอน เซฟโหมด ปรากฏขึ้น ขั้นตอนที่ 3. แตะ เซฟโหมด เพื่อเริ่มอุปกรณ์ของคุณใน เซฟโหมด หากคุณเข้าสู่ เซฟโหมด สำเร็จ คุณจะเห็น เซฟโหมด แสดงขึ้นที่ด้านล่างของหน้าจอ ขั้นตอนที่ 4.
คุณสมาชิกหมายเลข 6653389 จากเว็บไซต์ pantip ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับ Android เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ว่า... รายละเอียด ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างน้อย 1 ท่าน เกี่ยวกับ "[Android] ทำไมลำโพงมือถือเราเสียงดังมากอะเปิดเบาสุดดแต่ได้ยินทั้งบ้าน (อยากมีความเป็นส่วนตัว)"... ดังนี้ โดยหัวข้อนี้เกี่ยวกับเรื่อง Android, กระจกนิรภัยมือถือ, กล้องโทรศัพท์มือถือ, ลำโพง, เทคนิคการถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ หัวข้ออื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้าเราซื้อไอโฟนที่ร้านสามารถขอเปิดเครื่องเองที่บ้านได้มั้ย? อยากทราบว่า คนที่ใช้ Android มาก่อน เเล้วหันไปใช้ IPhone มีความคิดยังไงบ้างค่ะ โอเพ่นแชทเข้าไม่ได้ แต่ข้อความเด้งตลอด อิโมจิandroid12บางตัวใช้ในไอจีไม่ได้ ใครพอทราบบ้างมั้ยคะว่าควรทำยังไง? เสียบไมค์มือถือแล้วมีเสียงช๊อต สามารถนำมือถือแอนดรอยไปเพิ่มรอมได้หรือไม่ จาก รอม 16 ให้ได้ สัก 32 เป็นอย่างน้อย โทรศัพท์มือถือที่ทำ Factory reset แล้วยังสามารถกู้ข้อมูลต่างๆ ได้อีกอยู่ไหมครับ โทรศัพท์มือถือราคาย่อมเยาแต่คุณภาพดี ถามเรื่องมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 4/6 series มีผลต่อการเล่นเกมแนวกาชาหรือเกมออนไลน์ยอดฮิตบ้างไหมครับ?